aboutbpk aboutbpkicon

bulletPurpleหลวงปู่พริ้ง

พระครูประศาสน์สิกขกิจ (หลวงปู่พริ้ง) วัดบางปะกอก แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. ท่านเกิดเมื่อปี วันอาทิตย์ ขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 พ.ศ.2413 ปีมะเมีย ท่านเป็นชาวบางปะกอกโดยกำเนิด โยมบิดาชื่อทศ นามสกุล เอี่ยมทศ โยมมารดาชื่อสุ่น ท่านบวชเป็นสามเณรตั้งแต่ยังเล็กๆ ที่วัดพลับ โดยอยู่กับพระน้าชายชื่อพระอาจารย์ดี ต่อมาท่านจึงอุปสมบทเป็นภิกษุเมื่อ พ.ศ. 2435 ที่วัดทองนพคุณ โดยมี พระสุธรรมสังวรเถระ เป็นพระอุปชาฌ์ พระพุทธฺ เป็นพระกรรมวาจารย์ และ พระจนฺทโชโต เป็นพระอนุสสาวนาจารย์ และได้รับฉายาว่า "อินทโชติ"

ต่อมาท่านได้ถูกนิมนต์ให้มาอยู่ที่วัดบางปะกอก อีก 2-3 ปีต่อมาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางปะกอก เมื่อ พ.ศ. 2438 หลังจากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูวิสุทธิ์ศีลาจารย์ และเป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในยุคสงครามอินโดจีน สมณศักดิ์สุดท้ายที่ท่านได้รับก็คือ พระครูประศาสน์สิกขกิจ พระครูชั้นพิเศษ แต่ชาวบ้านมักเรียกท่านว่า หลวงพ่อพริ้งบ้าง หลวงปู่พริ้งบ้าง มีผู้คนมากมายเดินทางมากราบท่านอยู่เป็นประจำ ตลอดจนเจ้านายเชื้อพระวงศ์ต่างๆ เช่นกรมหลวงชุมพรฯ ซึ่งท่านได้รับการบอกกล่าวมาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ว่ายังมีพระอาจารย์ที่เก่งมีวิทยาคมสูงอยู่ทางบางปะกอก ซึ่งหลวงพ่อพริ้ง ครั้นต่อมาเสด็จในกรมฯ ท่านจึงได้มาลองวิชากับหลวงพ่อพริ้ง จนฝากตัวเป็นศิษย์ ท่านมรณภาพลงในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2490 สิริอายุได้ 78 ปี

วัดบางปะกอก ซอยสุขสวัสดิ์ 19 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร (เดิมเป็นจังหวัดธนบุรี) เป็นวัดโบราณ ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมาได้กลายเป็นวัดร้างเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 จากการที่ทำเลที่ตั้งของวัดอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มและอยู่ริมคลอง ประมาณปี 2325 จึงมีผู้คนย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐาน บริเวณวัดเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ร่วมกันบูรณะปฏิสังขรณ์วัดเสร็จแล้วก็ได้ขนามนามตามชื่อคลองว่า "วัดบางปะกอก" และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี 2327 โดยมีเจดีย์อยู่ 2 องค์ สร้างเป็นแบบศิลปะมอญและศิลปะเขมร มีวิหารอยู่ 2 หลัง หลังแรกสร้างด้วยปูนเป็นศิลปะแบบเขมร ส่วนหลังที่สองสร้างด้วยไม้สัก มีลวดลายฉลุ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ส่วนหอไตรสร้างเป็นทรงไทยอยู่กลางสระน้ำ